ชนิดของ Hard Disk แบ่งตามการเชื่อมต่อ (lntctronics)
1.
แบบ IDG เป็นอินเทอร์เฟซรุ่นเก่าที่มีการเชื่อมต่อโดยใช้สายแพขนาด
40 เส้นโดยสายแพขนาด 1 เส้นสามารถต่อ Hard
Disk ได้2ตัวขั้วด้วยกันทำให้สามารถพ่วงต่อ Hard
Disk ได้สูงสุด 4 ตัวความเร็วสูงสุดในการถ่ายโอนข้อมูลที่ 8.3เมกะไบต์/วินาที
2. แบบ E-IDE (Enhaned
lntegrated Drive Elections)
Hard Disk แบบE-IDE พัฒนาจากประเภท IDE ด้วยสายแพขนาด
80ส้นผ่านคอนเน็คเตอร์ 40ขาเช่นเดียวกับ
IDE ช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานมากขึ้น
โดยมีความรวดเร็วในการโอนถึง 133 เมกะไบต์/วินาที
3. แบบ SCSI (Small Computer System lnterface)
Hard Disk แบบ SCSI มีอินเทอร์เน็ตเฟซที่ต่างจาก E-IDE โดยจะมีการ์ดสำหรับควบคุมการทำงานโดยเฉพาะเรียกว่าการ์ด SCSI ที่สามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่มีการทำงานแบบ
SCSI ได้ถึง 7 ชิ้นอุปกรณ์
ผ่านสายแพแบบ SCSI ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลมีสูงสุด 320
เมกะไบต์/วินาที
กำลังรอบการหมุนของจากดิสก์ปัจจุบันแบ่งเป็น 10,000 และ15,000
รอบต่อนาที ดังนั้น
จึงเหมาะสมสำหรับมาใช้กับงานด้านเครือข่าย (Server) เท่านั้น
4. แบบ Serial ATA
เป็นอินเทอร์เน็ตเฟซที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน
เมื่อการเชื่อมต่อในลักษณะ Parallel ATA หรือ E-IDE มีความเร็วเพียง 133 เมกะไบต์/วินาที
ส่วนการเชื่อมต่อรูปแบบใหม่นี้ให้ความเร็วสูงได้ถึง 150 เมกะไบต์/นาที เทคโนโลยีนี้ถูกคาดหวังว่าสามารถขยายช่องสัญญาณ (Bandwidth) ในการส่งผ่านข้อมูลได้เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า และ
รองรับข้อมูลได้มากยิ่งขึ้นไม่เฉพาะฮาร์ดดิสก์เท่านั้นที่จะมีการเชื่อมต่อรูปแบบนี้
แต่ยังรวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ CD-RW หรือ DVD อีกด้วย
2. ซีดีรอมไดร์ฟ
(CD-ROM Drive)
เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่อ่านข้อมูลจากแผ่นซีดีรอม
และแปลงสัญญาณข้อมูลที่ส่งไปหน่วยประมวลผล โดยการทำงานภายในซีดีรอมจะแบ่งเป็นแทร็ก
และเซ็กเตอร์เหมือนแผ่นดิสก์ แต่เซ็กเตอร์ในซีดีรอมจะมีขนาดเท่ากัน
ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้น เมื่อไดร์ฟซีดีรอมเริ่มทำงาน
มอเตอร์จะหมุนด้วยความเร็วหลายค่า เพื่อให้อัตราเร็วในการอ่านข้อมูลคงที่สม่ำเสมอทุกเซ็กเตอร์
ไมว่าจะอยู่รอบนอกหรือวงใน จากนั้นแสงเลเซอร์จะฉายลงซีดีรอม
โดยจะถูกโฟกัสด้วยเลนส์ที่เคลื่อนตำแหน่งได้ด้วยการทำงานทำงานของขดลวด
ลำแสงเลเซอร์จะทำลุไปที่ซีดีรอมแล้วสะท้อนกลับที่ผิวหน้าของซีดีรอมจะเป็นหลุมลงไปเรียกว่า
“พิษ” ส่วนบริเวณที่ไม่มีการเจาะเรียกว่า “ แลนด์” ผิวสองรูปแบบจะใช้แทนการเก็บข้อมูลรูปแบบของ
1 และ 0 เมื่อแสงถูกพิตจะกระจายไม่สะท้อนกลับ
แต่เมื่อถูกแลนด์จะสะท้อนกลับผ่านแท่งปริซึมและหักแหไปยังตรวจจับแสง ทุก ๆ
ช่วยของลำเลียงเสียงที่กระทบตัวตรวจจับแสงกำเนิดแรงดันไฟฟ้า หรือเกิด 1 และ 0 ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้
ส่วนที่บันทึกข้อมูลลงแผ่นซีดีรอมนั้นต้องใช้แสงเลเซอร์เช่นกัน
โดยมีลำแสงเลเซอร์จากหัวบันทึกของเครื่องบันทึกข้อมูลส่องไปกระทบผิวหน้าของแผ่น
ถ้าส่องไปกระทบบริเวณใดจะทำให้บริเวณจะทำให้บริเวณนั้นเป็นหลุมขนาดเล็ก
บริเวณที่ไม่ถูกบันทึกจะมีลักษณะเป็นพื้นที่เรียบ ๆ ตลอดทั้งแผ่น
แผ่นซีดีรอม (CD-ROM)
CD-ROM หรือ Compact
Disc Read-only memory เป็นสื่อในการเก็บข้อมูลแบบออปติคอล (Optical
Storage) ใช้ลำแสงเลเซอร์ในการอ่านข้อมูล
แผ่นซีดีรอมทำมาจากแผ่นพลาสติกเคลือบด้วยอลูมิเนียม เพื่อสะท้อนแสงเลเซอร์ที่ยิงมา
เมื่อแสงสะท้อนกลับไปที่ตัวอ่านข้อมูลที่เรียกว่า Photo Detector จะอ่านข้อมูลที่ได้รับกลับมาว่าเป็นอะไร และส่ง ค่า 0 และ 1 ไปให้กับซีพียูเพื่อนำไปประมวลผลต่อไป
แผ่นดีวีดีรอม (DVD-ROM)
DVD-ROM หรือ Digital Video Disk Read-Only Memory เป็นหน่วยเก็บข้อมูลที่ได้รับความนิยมมาก
คล้ายซีดีรอม แต่สามารถเก็บข้อมูลที่ได้มากกว่าหลายเท่า ขนาดมาตรฐานเก็บข้อมูลได้ 4.7
กิกะไบต์ หรือ 7 เท่าของซีดีรอมโดยดีวีดีแผ่นหนึ่งบรรจุภาพยนตร์ความยาวได้ถึง
133 นาที
ปัจจุบันสื่อดังกล่าวนิยมใช้ในการบันทึกภาพยนตร์และข้อมูลในรูปแบบมัลติมีเดีย
3. แฟลซไดร์ฟ
(Flash Drive)
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เรียกว่า Flash Device (แฟลชไดร์ฟ) บางครั้งเรียก Handy Drive (แฮนดี้ไดร์ฟ) หรือ Thumb Drive (ทัมไดร์ฟ) มีชื่อจริงว่า
USB Mass Storage Device ใช้เชื่อมต่อกับ Computer ทาผ่านทางพอร์ต USB ใช้ Flash Memory เก็บข้อมูล ทำงานเหมือนฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟคือใช้สำหรับอ่านและบันทึกข้อมูล
แฟลซไดร์ฟมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวกราคาเริ่มถูกลง
พร้อมกับความจุที่มากขึ้นเรื่อย ๆ
อุปกรณ์นำเข้าข้อมูลและแสดงผล
อุปกรณ์นำเข้าข้อมูลสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
มีหลายชนิดโดยทั่วไปที่แสดงผลผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องพิมพ์ เป็นต้น
นอกจากนี้หากใช้งานคอมพิวเตอร์ใช้กันเป็นประจำจะใช้เมาส์และคีย์บอร์ดสำหรับการนำเข้าข้อมูล
กรณีที่คอมพิวเตอร์แสดงผลข้อมูลก็จะในรูปแบบอื่นเช่นเล่นเกมส์
สร้างงานทางสถาปัตยกรรม ถ่ายรูป ออกแบบต่าง ๆ ก็จะมีอุปกรณ์พิเศษที่ใช้สำหรับงานนั้น
ๆ โดยเฉพาะ เช่น ก้านควบคุม (joystick) พล็อตเตอร์ กล้อง เป็นต้น
อุปกรณ์นำเข้าและแสดงผล
อุปกรณ์นำเข้าข้อมูล (Input Device) ทำหน้าที่รับข้อมูลเข้าสู้เครื่องคอมพิวเตอร์
โดยข้อมูลอาจส่งผ่านอุปกรณ์รับข้อมูลได้โดยตรง เช่น ผ่านแป้นพิมพ์ (Keyboard)
เมาส์ (Mouse) ปากกาแสง (Light Pen) ก้านควบคุม (Joystick) เครื่องอ่านรหัสแท่ง (Bar
Code Reader) หรือโดยใช้อุปกรณ์รับข้อมูล เช่น ดิสก์ไดร์ฟ
อ่านข้อมูลในสื่อข้อมูล เช่นแผ่นดิสก์ เทปแม่เหล็ก เป็นต้น
อุปกรณ์นำเข้าข้อมูลจะเปลี่ยนข้อมูลที่รับเข้ามาให้อยู่ในรูปของรหัส
แล้วส่งไปยังหน่วยความจำเพื่อเตรียมทำการประมวลผลต่อไปปุปกรณ์นำเข้ามีหลายประเภท
แต่ละประเภทมีวิธีการในการนำเข้าข้อมูลเข้าที่ต่างกัน
อุปกรณ์แสดงผล (Output
Device) ทำหน้าที่เป็นส่วนแสดงข้อมูล
เป็นตัวกลางของการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์กับผู้ใช้โดยเมื่อรับข้อมูลที่ประมวลแล้ว
จากนั้นจึงแสดงผลในรูปแบบต่างๆ โดยอาศัยอุปกรณ์แสดงผล
อาจแสดงให้เห็นให้ได้ยินเสียงหรือบางครั้ง สามารถสัมผัสได
ตัวอย่างอุปกรณ์นำเข้า
1.
คีย์บอร์ด
(Keyboard)
2.
คีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์
เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในการสั่งงานและป้อน
ข้อมูลให้กับคอมพิวเตอร์
คล้ายกับเครื่องพิมพ์ดีดทั่วไป
3. เมาส์ (Mouse)
ปัจจุบันถือได้ว่าอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับการสั่งงานและป้อนข้อมูลให้กับ
คอมพิวเตอร์
โดยทั่วไปเมาส์ จะมีสายต่อไปยัง COM Port ด้านหลังของคอมพิวเตอร์ ปุ่มของ
เมาส์จะมี 2 ปุ่ม ซ้ายและขวา
และจะมีลูกกลิ้งอยู่ตรงกลาง
4. ไมโครโฟน (Microphone)
เรียกกันแบบย่อว่า
ไมค์ (Mic) อาจจะอยู่รวมชุดกับหูฟังเรียกว่าเป็นชุดหูฟังพร้อม
ไมโครโฟน
(Headset) ไมโครโฟนได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ต่างๆ
มากมายทั้งด้าน
การสื่อสาร
การบันทึกเสียง ระบบคาราโอเกะ เครื่องช่วยฟัง อุตสาหกรรมภาพยนตร์
การแสดงสดและการ
บันทึกเสียง หรืองานของวิศวกรด้านเสียง (Audio
Engineering)
งานกระจายเสียงและแพร่ภาพทางวิทยุและโทรทัศน์
รวมถึงงานมัลติมีเดียบนคอมพิวเตอร์
การรับคำสั่งเสียงในอุปกรณ์ IT การส่งสัญญาณสียงบนสื่ออินเทอร์เน็ต (Voip)
5. เครื่องสแกนภาพ (Scanner)
เครื่องสแกนภาพ
หรือสแกนเนอร์ เป็นอุปกรณ์จับภาพ
และเปลี่ยนแปลง
ภาพจากรูปแบบของแอนาล็อกดิจิตอล
ซึ่งคอมพิวเตอร์สามารถแสดง ผลิต
ออกมาได้เป็นภาพ
หรือข้อความ
ภาพที่เกิดจากสแกน
แบ่งเป็นประเภทดังนี้
ภาพ Single Bit เป็นภาพที่มีความหมาย ใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูล ประกอบด้วย ภาพ Line
Art เป็นภาพที่ได้จากภาพสเก็ต และภาพ Halftone เป็นภาพให้สีที่เป็นโทนสีเทาหยาบ ๆ
ภาพ Gray Scale จะมีส่วนประกอบมากกว่าภาพขาวดำ โดยจะประกอบด้วยเฉดสีเทาเป็นลำดับชั้น
ทำให้เห็นรายละเอียดด้านแสง-เงา ความชัดลึกมากขึ้นกว่าเดิม
ภาพสี หนึ่งพิกเซลของภาพสีนั้นประกอบด้วยจำนวนบิตมหาศาล
และใช้พื้นที่เก็บขอมูลจากความสามารถในการสแกนภาพออกมาได้ละเอียดขนาดไหนขึ้นอยู่กับว่าใช่สแกนเนอร์ขนาดความ
ละเอียดเท่าไร
ตัวหนังสือในที่นี้ ได้แก่ เอกสารต่างๆ เช่น
ต้องการเก็บเอกสารโดยไม่ต้อง
พิมพ์ลงในแฟ้มเอกสารเวิร์ดโปรเซอร์
สามารถใช้สแกนเนอร์สแกนเอกสาร ดังกล่าว และเก็บไว้เป็นแฟ้มเอกสารได้
นอกจากนี้สามารถใช้โปรแกมที่สนับสนุน OCR
(Optical Characters Recognize)มาแปลงแฟ้มภาพออกมาเป็นแฟ้มข้อมูลสามารถแก้ไขได้
1. เครื่องอ่านบาร์โค้ด (Barcode reaber)
Barcode reader หรือ ตัวอ่าน barcode มีการเรียกว่า
Price scanner หรือpoint-of-sale(POS) scanner เป็นอุปกรณ์นำเข้าแบบพกพาได้หรือติดอยู่กับที่ใช้ในการจับและอ่านสารสนเทศที่เก็บใน
barcode ตัวอ่าน barcodeประกอบด้วยตัวสแกน
ตัวถอดรหัส(มีทั้งติดอยู่ในตัวหรือภายนอก)และสายเคเบิลที่เชื่อมตัวอ่านกับคอมพิวเตอร์
7. ก้านควบคุม (Joystick)
อุปกรณ์พิเศษที่ใช้สำหรับเล่นเกมส์โดยเฉพาะมีสายเสียบต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์หรือ
เครื่องปลายทาง มีคันโยก ทำหน้าที่เหมือนเมาส์ หมุดเป็นวงรอบ
ใช้ควบคุมการเคลื่อนตัวไปในทิศทางต่างๆ ของตัวชี้ตำแหน่ง(Cursor) ไปสู่จุดต่างๆบนจอภาพ
ตัวอย่างอุปกรณ์แสดงผล
1.
จอภาพหรือจอแสดงผล
เป็นอุปกรณ์คล้ายจอโทรทัศน์ใช้สำหรับแสดงผลข้อมูล
แสดงข้อความ หรือกราฟิกตามต้องการของโปรแกรม
เพื่อให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์
สามารถดูผลลัพธ์จากการประมวลผลได้
2. ลำโพง (Speaker)
เป็นอุปกรณ์สำหรับแสดงผลออกมาในรูปแบบของสัญญาณเสียง
3. เครื่องพิมพ์
(Printer)
คือเครื่องพิมพ์เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
เพื่อทำห้าที่ในการแปลผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในรูปของอักขระ
หรือรูปภาพที่จะไปปรากฏอยู่บนกระดาษ เป็นอุปกรณ์แสดงผลที่นิยมใช้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
3.1
เครื่องพิมพ์แบบดอตแมทริกซ์ (Dot Matrix Printer): เป็นเครื่องพิมพ์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
เนื่องจากหัวพิมพ์มีลักษณะเป็นแบบหัวเข็ม
เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการซ้อนแผ่นก๊อปปี้หลายๆ ชั้น
3.2
เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (lnk-Jet Printer): เป็นเครื่องพิมพ์ที่สามารถพิมพ์ตัวอักษรได้หลากหลายรูปแบบรวมถึงพิมพ์งานด้านกราฟิกที่ให้ความคมชัดกว่าเครื่องพิมพ์แบบคอตแมทริกซ์
3.3
เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ (Laser Printer): เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีสมบัติเหมือนเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก
แต่ทำงานได้เร็วกว่าสามารถพิมพ์ตัวอักษรได้ทุกรูปแบบทุกขนาด สามารถพิมพ์งานกราฟิกที่คมชัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น